วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ช่วงสั้นๆ ในครั้งนี้ ลุงม่วงจะพาไปเที่ยวกันที่จังหวัด สมุทรสงคราม อีกหนึ่งจังหวัดที่เดินทางง่ายใกล้กรุง กับสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 จุดเช็คอิน กินเที่ยว ได้แก่
- ดอนหอยหลอด
- สถานีรถไฟแม่กลอง – ตลาดร่มหุบ
- วัดบางกุ้ง
- ตลาดน้ำบางน้อย
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับ
ท่องเที่ยวในรูปแบบวิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ ตามมาตรการ New Normal ตามลุงม่วงไปชมรีวิวกันเลยจ้า
ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย ครั้งนี้ เราจะพาไปสัมผัสวิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกันที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยว สมุทรสงคราม ก็คือการมาชมขบวนรถไฟวิ่งผ่านตลาดแม่กลองหรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตลาดร่มหุบ” นั่นเอง
ท่องเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ แบบ สมุทรสงคราม ไปเช้าเย็นกลับสบายๆ หรือจะค้างสักหนึ่งคืนก็ดี สำหรับเช้าวันนี้เราเริ่มต้นกันที่ “ดอนหอยหลอด”
“ดอนหอยหลอด” ตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางเข้ามาจากถนนพระราม 2 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ที่ดอนหอยหลอดแห่งนี้ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี
บริเวณนี้เกิดขึ้นจากการตกตะกอนของดินปนทราย และจะมีหอยอาศัยอยู่อย่างมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หอยหลอด หอยลาย หอยปากเป็ด หอยปุก หอยแครง เป็นต้น
บริเวณดอนหอยหลอด ยังเป็นที่ประดิษฐานของ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ด้านในของศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จะมีรูปหล่อของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ประดิษฐานอยู่ภายใน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้มาสักการบูชา
บริเวณโดยรอบยังมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และของที่ระลึกอีกมากมายหลายร้าน ทั้งอาหารทะเลสด และแห้ง หอยหลอด น้ำปลา กะปิ น้ำตาลปึก น้ำตาลสด เป็นต้น
แวะหาซื้อของฝาก ของทะเลสด และแห้ง อย่าลืมพกถุงผ้ามาใส่กันด้วยนะครับ
สายๆ วันนี้ลุงม่วงเดินทางมาที่สถานีรถไฟแม่กลอง ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของตลาดแม่กลองหรือที่เรียกกันว่าตลาดร่มหุบ นั่นเอง
ด้านในของสถานีรถไฟแม่กลองจะมีร้านขายของประปราย ลุงม่วงมาถึงเร็วไปนิด รถไฟยังไม่ใกล้เวลาที่จะมาจอด เลยดูเงียบๆ ไปนิด
ตรงข้ามกับสถานีรถไฟจะเป็นที่ตั้งของตลาดร่มหุบ มาเดินเที่ยวชมตลาด ก็ต้องไม่ลืมสวมหน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ
บรรยากาศของตลาดร่มหุบยังคงคึกคัก มีของขายมากมาย วางเรียงรายไปตามทางรถไฟ
ปลาทูหน้างอคอหัก เป็นสัญลักษณ์และสินค้าที่ขึ้นชื่อของแม่กลอง หาซื้อได้โดยทั่วไปที่ตลาดร่มหุบแห่งนี้ และราคาไม่แพงอีกด้วย
นอกจากปลาทูแล้ว สินค้าที่ขึ้นชื่อของสมุทรสงครามก็คงต้องเป็นน้ำตาลมะพร้าว มะพร้าวน้ำหอม อาหารทะเลทั้งสด และแห้ง พบเห็นได้โดยทั่วไปที่ตลาดร่มหุบแห่งนี้
ราว 11 โมง รถไฟก็มาถึงที่สถานีแม่กลอง ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่นี่ เพราะเวลาเมื่อรถไฟวิ่งผ่าน สินค้าที่วางขาย รวมไปถึงร่มที่กางขวางไปตามทางรถไฟ พ่อค้าแม่ค้าก็จะเก็บกันอย่างรวดเร็วว่องไว และหลังจากรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว ก็จะกลับมาวางขายเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้น ลุงม่วงเดินทางมาที่ “วัดบางกุ้ง” ซึ่งเป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ของ จ.สมุทรสงคราม ตั้งอยู่ใน อ.บางคนที สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ตามประวัติ กล่าวว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ช่วง พ.ศ.2308 กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ จึงรับสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้ง ที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า ค่ายบางกุ้ง
กองทัพพม่า ยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลอง และบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ ค่ายบางกุ้งจึงแตก หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ.2310 ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพเป็นค่ายร้าง
ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้กู้เอกราช และสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ค่ายจีนบางกุ้ง นั่นเอง
จุดเด่นและความสวยงามของวัดบางกุ้ง ที่แตกต่างจากวัดอื่นก็คือ โบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งโบสถ์ของวัดจะถูกต้นไม้ใหญ่ 4 ชนิดปกคลุม ได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง และคาดว่าน่าจะมีอายุราว 200 กว่าปีเลยทีเดียว
อีกทั้งโบสถ์แห่งนี้จะไม่มีช่อฟ้าใบระกา ตามแบบวัดไทยทั่วๆ ไป รากไม้เหล่านี้เป็นตัวช่วยยึดให้โบสถ์ยังคงรูปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ นอกจากนี้ตรงหน้าบันยังมีลวดลายพันธุ์พฤกษา ประดับด้วยเครื่องถ้วยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ทำให้วัดบางกุ้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของสมุทรสงคราม และยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยว Unseen Thailand อีกด้วย
ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์นั้น จะประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธมณีนิล หรือ หลวงพ่อโบสถ์น้อย หรือ หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอยุธยาตอนปลาย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน
ไม่ไกลจากวัดบางกุ้งมากนัก ลุงม่วงเดินทางมาที่ “ตลาดน้ำบางน้อย” ซึ่งเป็นตลาดน้ำเก่าแก่แห่งหนึ่งซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี ที่ตั้งของตลาดน้ำบางน้อยจะอยู่ที่ หน้าวัดเกาะแก้ว อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ถ้าขับรถมาก็สามารถจอดรถที่วัดเกาะแก้วได้เลยครับ
.
ในสมัยก่อนตลาดน้ำบางน้อย เป็นที่ค้าขายผลไม้ พืชผลทางการเกษตร จากชาวสวนที่อยู่รอบๆ ตลาด เช่น มะพร้าว ชมพู่ ส้มโอ มะม่วง และอาหารทะเลอย่างเช่น ปลาทู กะปิ
ตลาดน้ำบางน้อยถือว่าเป็นย่านค้าขายขนาดใหญ่ ต่อมาพอความเจริญเข้าถึง ทำให้ตลาดน้ำบางน้อย เปลี่ยนจากตลาด กลายเป็นชุมชนเก่าแก่ริมน้ำที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตริมน้ำเอาไว้ได้อย่างงดงาม
ก้าวย่างแรกของการมาที่ตลาดน้ำบางน้อย เราจะได้สัมผัสกับ “พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ” หรือบ้านไหพันใบ ซึ่งตั้งอยู่จุดแรกเมื่อเดินเข้ามาจากลานจอดรถของวัด
“พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ” เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่งมขึ้นมาได้จากแม่น้ำ และได้ทำการรวบรวมจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเยี่ยมชมโดยไม่ได้เก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด
ตลาดน้ำบางน้อย เป็นตลาดเล็กๆ ที่ใช้เวลาเดินไม่นานก็ทั่วแล้วครับ และเป็นตลาดน้ำที่เปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง เมื่อเดือนเมษายน ปี 2552 ด้วยความร่วมมือของชุมชนที่จะให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
บรรยากาศในตลาด จะเป็นห้องแถวไม้อยู่ริมน้ำ ฝั่งที่อยู่ริมน้ำจะมีชาวบ้านมาตั้งโต๊ะขายของ เสน่ห์ของที่นี่คือ เป็นตลาดเก่าของแท้ ชาวบ้านขายเอง ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยครับ
ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และมีความรับผิดชอบ อย่าลืมทิ้งขยะลงถังขยะกันด้วยนะครับ
ไม่ไกลจากตลาดน้ำบางน้อยมากนัก ลุงม่วงเดินทางมาที่ “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับ” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
ที่ “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับ” แห่งนี้ได้ผ่านมาตรฐาน SHA มีความปลอดภัยในด้านสุขอนามัยโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำขึ้นร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration มีชื่อเต็มในภาษาไทยว่า โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ
โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการนั้นๆ
การท่องเที่ยวในชุมชนบ้านบางพลับ เราจะใช้การปั่นจักรยานเป็นหลัก ไปยังจุดต่างๆ ของชุมชน เพื่อประหยัดพลังงาน และได้ออกกำลังกาย
จุดหมายแรกของการมาเที่ยวชุมชนบ้านบางพลับ คือการมาชม และเรียนรู้การทำน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดสมุทรสงคราม
การทำน้ำตาลมะพร้าว เป็นการนำน้ำตาลสดที่ได้จากช่อดอกมะพร้าว ที่เรียกว่า “จั่น” มาเคี่ยวด้วยความร้อนให้ระเหยจนเหลือแต่น้ำเหนียวข้น และเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งเมื่อเย็นตัว เรียกว่า น้ำตาลปึก และน้ำตาลปี๊บ
ปัจจุบัน นอกจากเกษตรกรจะผลิตน้ำตาลมะพร้าวจำหน่ายแล้ว ยังให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาเยี่ยมชม เป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมมากทีเดียว
จุดต่อมาคือการเยี่ยมชมสวนส้มโอขาวใหญ่ ซึ่งเป็นส้มโอที่มีรสชาติหวาน ลูกใหญ่ และเนื้อดี ปลูกแพร่หลายกันโดยทั่วไปภายในชุมชนบ้านบางพลับแห่งนี้
ในอดีต อาจารย์สมทรง แสงตะวัน เป็นบุคคลสำคัญที่ผลักดันให้คนในชุมชนหันมาปลูกส้มโอขาวใหญ่เชิงการค้าในแบบมีคุณภาพตามแนวทางเกษตรอินทรีย์ จนส้มโอขาวใหญ่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นสินค้าขึ้นชื่อของชุมชนบ้านบางพลับแห่งนี้
ลุงม่วงปั่นจักรยานมาอีกนิดเดียวก็มาถึง จุดที่เรียกว่า “ผลไม้กลับชาติ” โดยมีป้าแดง คุณฉวีวรรณ หัตถกรรม เป็นประธานกลุ่ม
ก่อนเข้าไปชมด้านใน อย่าลืมล้างมือกันก่อนนะครับ จะมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้ล้างมืออยู่ด้านหน้า
“ผลไม้กลับชาติ” เป็นการนำเอาผลไม้และพืชพันธุ์ในชุมชนมาแปรรูปให้มีรสชาติและสีสันน่ารับประทาน เก็บไว้ได้ยาวนาน ผ่านขบวนการขั้นตอนทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแช่อิ่ม การนำไปตากแดด เป็นต้น
ในภาพเป็นมะละกอ พริก มะม่วง และบอระเพ็ด ที่นำมาแปรรูป รสชาติดีทีเดียว
ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะแพ็คใส่กล่องและห่ออย่างดี สวยงาม ส่งจำหน่ายเป็นสินค้าสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนจนมีชื่อเสียงโด่งดัง
บริเวณโดยรอบจะร่มรื่น เต็มไปด้วยแมกไม้ และสวนผลไม้นานาชนิด อากาศดีมากๆ
จุดต่อมา ลุงม่วงปั่นจักรยานมาที่จุดที่เรียกว่า “คนเอาถ่าน” ซึ่งในแต่ละจุดท่องเที่ยวนั้น จะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถปั่นจักรยานท่องเที่ยวได้อย่างสบาย
“คนเอาถ่าน” เป็นการนำผลไม้ภายในชุมชนมาเผาเป็นถ่าน เพื่อให้ได้น้ำส้มควันไม้ เอาไว้ผสมน้ำฉีดพ่นต้นไม้เพื่อไล่แมลง ส่วนตัวผลไม้ที่เผาเสร็จแล้วสามารถนำไปทำเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี และขี้เถ้าสามารถมาพอกทำไข่เค็มได้อีกด้วย
ใช้เวลาในการเผาราว 8 ชั่วโมง โดยการรักษาความร้อน การเผาไหม้ จนได้ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ นำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป ถ้าท่านใดสนใจอยากเข้ามาศึกษาเยี่ยมชมก็สามารถติดต่อได้ที่ คุณสถาพร ตะวันขึ้น โทร.085-1922995 บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 4 ตำบลบางพรหม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
จุดสุดท้ายของการท่องเที่ยวชุมชนบ้านบางพลับ คือการมาเยี่ยมชมการทำว่าวไทย
คุณลุงอุดม มีคง ผู้ซึ่งสืบสานภูมิปัญญาการทำว่าวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความประณีตในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเลือกไม้ไผ่ การขึ้นโครง และการติดกระดาษ ทุกขั้นตอนล้วนแล้วแต่มีความสำคัญแทบทั้งสิ้น
จากลากันไปด้วยภาพของ คุณลุงอุดม มีคง กับรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภูมิใจ และความสุข ถ้าใครอยากมาชมหรือมาลองทำ ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรตามนี้เลยครับ ที่ฐานอนุรักษ์ว่าวไทย บ้านลุงอุดม มีคง โทร.065 831 8486
.
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงครามในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์สั้นๆ ที่ผมคิดว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียวครับ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ
#AMAZINGไทยเท่
#เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป
#สมุทรสงคราม
ที่มา : เฟซบุ๊กเพจ ม่วงมหากาฬพาเที่ยว : Life for Travel
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เยือนแหล่งวัฒนธรรม สำราญใจ กินเที่ยว ‘สมุทรสงคราม’
- เช็คอิน ฟิน ‘สมุทรสงคราม’
- 5 จุดเช็คอิน กินเที่ยว ‘สมุทรสงคราม’